ปัจจุบันเครื่องสำอางตามท้องตลาดกว่า 80% ล้วนมีสารซิลิโคนผสมอยู่ด้วย ข้อดีของเขาคือสามารถพรางรูขุมขนได้ กันน้ำได้ดี จึงทำให้หลายคนชอบที่จะใช้กัน แต่รู้ไหมว่าข้อเสียของซิลิโคนก็ใช้ได้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการบำรุงแต่อย่างใด กลับทำลายผิวให้เสื่อมสภาพมากกว่าเดิมด้วยหากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ
หยิบเครื่องสำอางของคุณมาดูให้ไว ว่ามีสารซิลิโคน ผสมอยู่บ้างไหม เพราะสารนี้อาจทำให้ผิวคุณเกิดการอุดตัน จนอาจกลายมาเป็นสิวได้นะ ช่วงสงกรานต์ก็มักจะหาเครื่องสำอางที่เน้นปกปิด กันน้ำได้ดี แต่รู้ไหมว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นแหล่งเกิดปัญหาผิวชั้นดีได้เลย
หากใครยังจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางที่สารซิลิโคนอยู่ บีเอสแอลคลินิกแนะนำให้ดูแลผิวดังนี้
1. ล้างหน้าให้สะอาด
การเลือกผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง เช็ดไปบริเวณผิวหน้า ควรเช็ดไปตามแนวรูขุมขน บริเวณหน้าผากให้เช็ดออไปทางใบหู คือหน้าผากฝั่งซ้ายก็เช็ดไปทางหูซ้ายฝั่งขวาก็เช่นกัน บริเวณแก้ม ให้เช็ดลงมาจากช่วงสันจมูกลงไปยังกรอบหน้า บริเวณคางให้เช็ดลงไปยังลำคอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำความสะอาดให้อย่างเหมะสมแล้ว
2. เลเซอร์รักษาสิว
การเลเซอร์เพื่อให้รูขุมขนเล็กลง กระชับ ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และยังช่วยลดต้นตอของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วย เพราะหากรูขุมขนของเรากระชับเรียบเนียนแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องสำอางที่มีสารซิลิโคนอีกต่อไป
3. เลือกเครื่องสำอางที่ไม่มีสารซิลิโคนผสมอยู่
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารที่ลงท้ายด้วย -cone, -conol, -Silane หรือ -siloxane เช่น Dimethicone, Dimethiconol, Polymethylsilsesquioxane, Cyclopentasiloxane, Dimethicone Crosspolymer, Cetyl Dimethicone, Decamethyl Cyclopentasiloxane, PEG-10 Dimethicone, Methicone, Cyclomethicone, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane ก็ช่วยลดการอุดตัน และลดการเกิดสิวได้ด้วย
หากเรายังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารซิลิโคน แล้วทำความสะอาดผิวหน้าได้ไม่ดี ก็จะส่งผลให้เกิดการสะสม และอุดตันในรูขุมขน จนทำให้กลายมาเป็นสิวในที่สุด เพราะฉะนั้น หากไม่มั่นใจว่าเราจะทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดจริง ๆ ก็ควรเลี่ยงที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารซิลิโคนผสมอยู่นั้นเอง