
5 ข้อควรรู้ ครีมรักษาสิว ปลอดภัยกับผิวจริงไหม?
สิว สิว สิว… คงเป็นคำที่หลายคนอาจจะไม่อาจได้ยิน และไม่อยากที่จะเป็นมัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการเป็นสิวนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะหากเราเผลอตัวเผลอใจไปกระตุ้นปัญหาสิว แน่นอนว่าผิวหน้าของเราก็จะไม่มีการเรียบเนียนอีกแน่นอน วิธีการรักษาส่วนใหญ่ หากใครเป็นสิวไม่มากก็มักจะนิยมหาครีม หรือยามารักษาเอง ใครที่มีสิวปานกลางไปถึงหนัก ก็มักจะเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินผิว และหาวิธีการรักษาต่อ
แต่ในปัจจุบันครีมรักษาสิวนั้นได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เกิดจากการมารีวิวส่วนบุคคลของชาเน็ตที่ว่าใช้แล้วมันดี ใช้แล้วมันยุบ และในความเป็นจริงแล้ว เราควรรู้อะไรบ้างก่อนจะใช้ครีมรักษาปัญหาสิวนั้น เพื่อไม่ให้ผิวเกิดอันตรายและได้ผิวใส ไร้ปัญหาผิวตามมา
ข้อควรรู้1 : ครีมลดสิว ไม่ใช่ทางออกออกของปัญหาสิวทุกชนิด
เพราะปัญหาสิวนั้นมักเกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย หลายสาเหตุ วิธีการลดสิวที่ดีคือการรักษาให้ตรงกับสาเหตุที่เป็น ดังนั้นการใช้ครีมเพื่อลดสิวนั้นจึงเหมาะกับสิวบางชนิดเท่านั้น อย่างเช่นครีมบางชนิดก็เหมาะกับการละลายหัวสิว ที่เกิดการอุดตันเล็กน้อย ๆ ครีมบางชนิดก็เหมาะกับการทาเพื่อลดการอักเสบขอสิวได้ จากที่กล่าวมาเรียกได้ว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทั้งนั้น อย่างไรก็ตามหากอยากมีผิวหน้าที่ดี ควรรักษาปัญหาสิวให้ครบทั้ง 4 สาเหตุ ประกอบด้วย
- รูขุมขน
- ต่อมไขมัน
- เชื้อแบคทีเรีย C.acnes
- ฮอร์โมนเพศ
โดยสามารถดูได้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bslclinic.co.th/acne-treatment/

ข้อควรรู้2 : ก่อนใช้ครีมลดสิว ควรรู้จักประเภทของสิวก่อน
เพราะเจ้าครีมที่รักษาปัญหาสิวนั้น หากใช้ผิดประเภทของสิว หรือใช้ไม่ตรงกับปัญหาสิวที่เป็น อาจะทำให้เกิดอาการ “ดื้อยา” ก็เป็นได้ โดยสิวที่เป็นกันอยู่นั้น มักถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
- สิวอุดตัน: มันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หรือมีปัจจัยภายในมากระตุ้นให้ก่อนการอุดตัน อย่างเช่น สิวหัวดำ, สิวอุดตัน, สิวผด, สิวหัวเปิด จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีการอุดตัน
- สิวอักเสบ: หลักๆ มักเกิดจากการที่เจ้าปัญหาสิวอุดตันทั้งหลายที่กล่าวมาเบื้องต้นนั้นถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งการกด การบีบ การรักษาแบบไม่ถูกวิธี สิ่งเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นจากสิวอุดตันธรรมดาๆ กลายมาเป็น สิวอักเสบได้ในที่สุด เช่น สิวนูนแดง, สิวหัวหนอง, สิวอักเสบ, และสิวซีสต์ เป็นต้น
เมื่อเข้าใจประเภทของสิวแล้วนั้น จะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะมาใช้รักษาสิวได้อย่างตรงจุดมากขึ้นนั้นเอง เพราะไม่ใช่ว่าสิวจะลดความรุนแรงลง แต่ยังช่วยให้ผิวของเราไม่เกิดการดื้อยาในอนาคตได้ด้วย
ข้อควรรู้3 : เลือกครีมรักษาสิว ให้ถูกประเภทกับสิวที่เป็น
เพราะสิวแต่ละประเภทนั้นจะรักษาต่างกัน เมื่อคุณเข้าใจถึงประเภทสิวข้างต้นแล้ว มาดูกันว่าเราจะรักษามันได้อย่างไร
- สิวอุดตัน คือสิวที่ไม่มีความรุนแรง แต่หากรักษาไม่หายมักจะเป็นแหล่งกำเนิดสิวอักเสบได้ในอนาคต หากคุณมีสิวประเภทกลุ่มสิวอุดตันนั้น สามารถใช้ยาละลายหัวสิวได้ โดยชื่อทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่ายากลุ่มนี้ว่า “salicylic acid” “benzoyl peroxide” หรือ กรดวิตามินA ก็สามารถช่วยลดปัญหาการอุดตันได้
แต่อย่างไรก็ตามหากมีสิวอุดตัน วิธีที่รักษาให้ตรงสาเหตุมากที่สุด นั้นก็คือการดูว่าสิวอุดตันที่เราเป็นนั้นเกิดจากสาเหตุใด ยกตัวอย่างเช่น ระหว่าง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนครีมบำรุงผิว หรือ เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือไม่ หากใช่ก็ควรที่จะลองหยุดใช้ เพราะบางครั้งอาจเกิดการอุดตันเพราะเราเปลี่ยนผลิตภัณฑ์การใช้งานก็เป็นได้
- สิวอักเสบ ในกลุ่มนี้จะพูดถึงสิวอักเสบที่ยังไม่มีหัวหนอง เป็นสิวอักเสบที่มีอาการนูน แดง เล็กน้อย โดยกลุ่มนี้สามารถ รักษาโดยการใช้ benzoyl peroxide + clindamycin แต้มบริเวณที่เกิดการอักเสบได้ หรือสามารถดูวิธีการรักษาสิวอักเสบที่บ้านเองง่ายๆ ได้ที่นี่: https://www.youtube.com/watch?v=5J9GQm2Y49Q
- สิวหัวหนอง ลักษณะของเขาจะมีหัวขาวๆ เกิดขึ้นบริเวณหัวสิว สิวชนิดนี้จะไม่มียาที่สามารถทำให้ยุบได้ แต่สามารถทำการเอาหัวสิวออกได้อย่างถูกวิธีโดยหมอผิวหนัง เพราะหากเรากด หรือบีบเอา อาจจะเสี่ยงให้เกิดปัญหาหลุมสิวตามมาทีหลังได้นั้นเอง
- สิวหัวช้าง เป็นสิวชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของการอักเสบ โดยจะมีก้อนอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างของผิว สิวชนิดนี้หากไม่เข้าใจวิธีการรักษา อาจจะทำให้ยิ่งเกิดอาการเจ็บ และเกิดหลุมสิวตามาได้ แนะนำว่าควรพบหมอผิวหนัง จะดีที่สุด
เมื่อเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองแล้ว อย่าลืมที่จะสังเกตุประเภทของสิวที่เป็นอยู่ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสิวนั้น ๆ ด้วยนะ เพราะจะช่วยลดปัญหาสิวได้ และลดปัญหารอยสิว หลุมสิว ได้อีกด้วย
ข้อควรรู้4 : ครีมลดสิว ไม่ใช่การรักษาสิวจากสาเหตุ
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า การใช้ครีมรักษาสิว เป็นเพียงการบรรเทา หรือการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น เพราะการรักษาสิวที่ดี คือการรักษาจากสาเหตุของการเกิดสิว จึงจะช่วยให้ปัญหานี้ลดลงได้ในระยะยาว เพราะปัญหาสิวของแต่ละคนมักมีที่มาที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น บางคนไม่เคยมีสิวเลย แต่พอเปลี่ยนแชมพูสระผม สิวอุดตันก็เกิดขึ้น ซึ่งวิธีแก้ควรแก้จากการเปลี่ยนแชมพูสระผม ไม่ใช่เป็นการหาครีมเพื่อทาให้สิวลดลงไป หรือในผู้หญิงบางคนมักมีสิวขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน การใช้ครีวมลดสิว ก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืนของสิวชนิดนี้นั้นเอง
ข้อควรรู้5 : ครีมลดสิว หากใช้ถูกวิธี ก็ช่วยให้ผิวปลอดภัยได้
จากข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า ครีมที่ใช้รักษาสิวนั้น มีทั้งขอดีและข้อเสียในบางจุด ดังนั้นหากเกิดสิว หรือจำเป็นที่ต้องใช้ครีมเหล่านี้ ควรที่จะหาข้อมูล ศึกษาให้เข้าใจถึงกระบวกการ และผลกระทบที่อาจจะตามมาได้ เพราะฉะนั้นหากคุณมีสิวอุดตัน สามารถหายาละลายหัวสิวมาเบาเทาอาการได้ ส่วนสิวอักเสบที่ยังไม่มีหัวหนอง สามารถใช้ benzoyl peroxide + clindamycin ในการรักษาได้เบืองต้น
ท้ายที่สุดแล้วปัญหาสิวนั้นจะไม่หมดไปเลย ถ้าเราไม่รักษาสิวให้ตรงกับสาเหตุที่ทำให้มันเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นหากยังกังวลใจ ควรที่จะปรึกษาหมอผิวหนังเพื่อหาทางออกให้กับปัญหานี้จะดีที่สุด และช่วยให้สิวหายไปในระยะยาวได้อีกเช่นกัน
BSL Clinic
บีเอสแอล เราเข้าใจคนเป็นสิว และขอเป็นแรงบันดาลใจ ช่วยคลายความทุกข์ใจในเรื่องสิว ให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และมีความมั่นใจขึ้นในแบบที่เป็นตัวคุณ เราจึงรวบรวมเทคโนโลยีวิธีการรักษาสิว โดยเราจะดูแลให้ปลอดภัย เพื่อให้สิวลดลง ผิวแลดูกระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้น ลดโอกาสที่่สิวเกิดใหม่จะกลับมาเห่อขึ้นอีก
Contact Us
- สาขาสีลม 30/8 ถนนศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
- สาขาสุขุมวิท อาคารไทมส์สแควร์ ชั้น G. 246 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
- โทรศัพท์ 099-343-8666
- [email protected]
COPYRIGHT © 2020 THE BANGKOK COSMETIC CLINIC. ALL RIGHTS RESERVED.
