![](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/00-07-01-2022-1024x683.jpg)
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมแพทย์ผิวหนังหลายคนถึงไม่แนะนำให้บีบสิวอักเสบออกจากผิวเอง เพราะหากเราจัดการกับเจ้าสิวอักเสบเองแบบไม่เข้าใจถึงสาเหตุการเกิด จะทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดเป็นหลุมสิวตามมาได้ มาดูกันว่ากว่าจะเป็นสิวอักเสบนั้น ต้องผ่านอะไรมาบ้าง และการดูแลตัวเองเบื้องต้นควรทำอย่างไรหากผิวหน้ามีสิวอักเสบ มาหาคำตอบพร้อมๆ กัน ได้ที่บทความนี้
ประเภทของสิวอักเสบ
สิวอุดตันต้นตอของการเกิดสิวอักเสบ
![](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/03-07-01-2022.jpg)
ผิวเกิดการอุดตัน จนกลายมาเป็นสิว
![](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/04-07-01-2022.jpg)
แบคทีเรีย C.acnes เข้ามาย่อยสลาย
![](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/05-07-01-2022.jpg)
เกิดการติดเชื้อ และกลายมาเป็นสิวอักเสบ
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะเข้าใจแล้ว แต่จะขออธิบายแบบง่ายๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจกันอีกครั้ง เริ่มจากเมื่อผิวหน้าของเราเกิดการอุดตัน และต่อมไขมันในผิวผลิตไขมันออกมามากเกินปกติ จนไปอุดตันรูขุมขน เมื่อไขมันเกิดการอุดตันที่รูขุมขน จะมีเจ้าแบคทีเรียที่ชื่อว่า C.acnes เข้าไปย่อยสลายไขมันเหล่านั้น ฟังดูเหมือนว่า งั้นก็ดีล่ะสิมีตัวมาสลายไขมันก็จะลดการอุดตัน แต่ในทางกลับกัน เจ้าเชื้อแบคทีเรียนี้ จะทำให้สิวเกิดการติดเชื้อ และเกิดการอักเสบในที่สุด เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดสิวอักเสบเลยก็ว่าได้ และยังรวมไปถึง การกดสิว บีบสิวเอง หรือจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ไม่มีความปลอดภัย ก็ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบได้เช่นกัน
5 ขั้นตอนการดูแลสิวอักเสบด้วยตัวเอง
ขั้นตอนที่ 1 การล้างหน้า
การล้างหน้านั้นไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป แนะนำให้ล้าง เช้าและเย็น 2 เวลาต่อวันก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดผิวหน้า รวมไปถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโอนต่อผิว ไม่ทำให้เกิดฟอง จะช่วยให้ผิวไม่เกิดการระคายเคือง อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการล้างหน้าแบบไม่ขัด ไม่ถูผิว เพราะการล้างหน้าแรงๆ ไม่ได้ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดมากขึ้น แต่จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และทำให้สิวยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
ขั้นตอนที่ 2 ประคบน้ำแข็ง
ในช่วง 2-3 วันแรกที่มีปัญหาสิวอักเสบ คุณหมอสิวแนะนำให้นำทิชชู่มาห่อน้ำแข็ง และทำการประคบไปที่สิวอักเสบ เป็นเวลา 10 นาที และพักผิวสักครู่ แล้วจึงทำการประคบสิวอักเสบอีกครั้ง อีก 10 นาที
ขั้นตอนที่ 3 ทายาแต้มสิว
เมื่อทำการประคบเรียบร้อยแล้วให้นำตัวยาที่มีส่วนปรักอบของ Benzoyl Peroxide แต้มบริเวณที่หัวสิวนูนที่สุด โดยคนที่มีปัญหาผิวแห้งให้ใช้ Benzoyl Peroxide 2.5% และในคนที่มีผิวมันให้ใช้แบบ 5% วิธีนี้จะช่วยให้สิวลดลงได้ และลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 4 ประคบน้ำอุ่น
หากสิวอักเสบเริ่มมีหัวสิวขาวๆ ขึ้นมาแล้ว แนะนำให้ใช้ผ้าชุบกับน้ำอุ่นประคบบริเวณที่มีสิวอักเสบ 10 นาที ใน 1 วัน ควรประคบน้ำอุ่นประมาณ 3 ครั้ง ก็จะช่วยให้สิวลดการอักเสบลงได้
ขั้นตอนที่ 5 ไม่แกะสิว บีบสิว
ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ หรือไม่อักเสบก็ไม่ควรที่จะแกะสิว บีบสิวเอง เนื่องจากว่าจะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม ในกรณที่เป็นสิวปกติหากมีการกดสิว จะทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการอักเสบมากขึ้น และกลายมาเป็นสิวอักเสบในที่สุด และในกรณีที่เป็นสิวอักเสบและทำการกดสิวเอง ปัญหาที่ตามมาคือ การเกิดรอยแดง รอยดำ หรือหนักไปกว่านั้นคือการเกิดหลุมสิวตามมาที่ผิว ซึ่งหากเกิดเป็นหลุมสิวแล้ว จะทำให้ยากต่อการรักษา
![รักษาสิว](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/02-07-01-2022-1024x683.jpg)
ขั้นตอนที่ 6 ปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ
สิวเป็นเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุก่อนที่จะทำการรักษา การพบคุณหมอผิวหนังอย่างน้อยก็ได้เข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสิวที่ตัวเองเป็น และควรจะดูแลรักษาด้วยวิธีการไหน ซึ่งแพทย์จะประเมินผิวหน้าก่อนที่จะทำการรักษาทุกครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับผิวและตัวของคนไข้เองช่วยลดการเกิดปัญหาผิวที่จะตามมาภายหลัง เช่น รอยแดง รอยดำ หลุมสิว
การดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลสิว วิธีที่ดีที่สุดคือการรักษาสิวจากสาเหตุของการเกิดสิว เพราะเมื่อเรารักษาตั้งแต่ยังเป็นสิวอุดตัน จะช่วยลดปัญหาสิวที่ตามมาอย่างสิวอักเสบได้ และลดปัญหาการเกิดหลุมสิวจะตามมาอีกด้วย ทั้งนี้การรักษาของแพทย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สิวลดลง แต่สิ่งสำคัญคือความมีวินัยในการดูแลผิวของตัวเอง ลดการปฎิบัติตามที่จะเสี่ยงต่อการเกิดสิวในอนาคต โดยสามารถอ่านรายละเอียดเรื่องสิวเพื่อมเติมได้ที่ รักษาสิว ที่ BSL Clinic สิวเยอะแค่ไหน รักษาให้หายได้
![](https://xn--12c1enhf3bjr.net/wp-content/uploads/2022/01/06-07-01-2022-1024x683.jpg)
หลุมสิวหากเกิดขึ้นแล้วจะไม่สามารถตื้นขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ เพราะจะมีพังผืดที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนังอยู่ โดยหมอผิวหนังจะแนะนำวิธีการรักษาหลุมสิวดังนี้
เลเซอร์หลุมสิว เป็นการกระตุ้นผิวให้เกิดขึ้นใหม่ ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น
เลเซอร์สลายพังผืด เป็นการสลายพังผืดที่อยู่ใต้ผิวหนัง ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น
ฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นการเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ หากทำควบคู่กับเลเซอร์จะช่วยให้มีประสิธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
เลเซอร์แต่งขอบหลุมสิว เหมาะสำหรับหลุมสิวที่มีขอบเขตชัดเจน เป็นการแต่งขอบหลุมสิวให้มน ช่วยให้หลุมสิวดูตื่นขึ้นได้
อย่าปล่อยให้ปัญหาสิวมาส่งผลกระทบต่อผิวและจิตใจของคุณ เมื่อมีสิวควรรีบรักษาให้ตรงจุดจึงจะเป็นการหยุดปัญหาสิวอื่นๆ ไม่ให้ตามมา
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาผิว
Line ID : @bslclinic **มี @ ข้างหน้า**
Line : https://line.me/ti/p/@bslclinic
Tel : 02-235-8858, 098-289-7805